ทรฟื

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ไม้ดอกชนิดเป็นเถา













































การเวก
เป็นไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่ กิ่งก้านค่อนข้างเรียบ มีขนมากเฉพาะที่ตาและยอดอ่อน ใบเป็นประเภทใบเดี่ยวเรียงสลับกัน สัณฐานของใบเป็นรูปรีหรือรูปขอบขนาน ปลายและโคนใบแหลม ขอบใบเรียบ
ออกดอกเป็นช่อๆ ละ 1-5 ดอก ก้านช่อดอกแบนและโค้งคล้ายขอ ออกตรงข้ามกับด้านใบ ดอกมีขนาดใหญ่สีเขียวมีขนมาก
เมื่อดอกแก่จะเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอม กลีบเลี้ยงมี 3 กลีบ มีสัณฐานเป็นรูปสามเหลี่ยมขนาดเล็กสีเขียว ปลายกลีบกระดกขึ้น กลีบดอกเป็นรูปไข่รียาว เรียงเป็น 2 ชั้น ๆ ละ 3 กลีบ มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก เกสรตัวเมียหลายอันอยู่แยกกัน ผลรูปรีป้อมหรือรูปไข่กลับ ออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 4-20 ผล เมื่อผลแก่จะเป็นสีเหลือง ออกดอกตลอดปี
ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งหรือเพาะเมล็ด

คิ้วนาง
เป็นไม้เถามีมือเกาะกิ่งอ่อน มีขนสีน้ำตาล ใบเว้าผ่ากลางเป็น 2 ซีก คล้าบใบย่อย 2 ใบ ใบมีสัณฐานเป็นรูปไข่เบี้ยว ปลายกลม ดอกมีขนาดใหญ่สีขาว เมื่อดอกบานเต็มที่จะกว้างประมาณ 15 เซนติเมตร
ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ดอกออกดกมากและจะทะยอยกันบานวันละ 1-3 ดอก ดอกมี 5 กลีบ ร่วงง่าย เกสรตัวผู้มี 10 อัน ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ชูอับเรณูขึ้นเหนือกลีบดอกเห็นได้ชัด ฝักยาวประมาณ 30 เซนติเมตร
ออกดอกประมาณเดือนสิงหาคม-มกราคม ชอบขึ้นตามป่าผลัดใบ และป่าโปร่งบนภูเขาหินปูนในภาคกลาง และภาคตะวันออก
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด และการตอนกิ่ง

ชมนาค
เป็นไม้เถาเลื้อย เถาแข็งใบใหญ่ ผิวใบเป็นมันเรียบ ปลายใบแหลม ใบสีเขียวแก่ ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร
ออกดอกตามกิ่งข้างหรือปลายเป็นช่อ ช่อหนึ่งมีประมาณ 12 ดอก ดอกสีขาวอมเขียวมีกลิ่นหอม ดอกมีกลีบติดกันเป็นถ้วยตื้น ๆ ปลายแยกจากกันเป็นแฉกตื้น ๆ เกสรตัวผู้มี 5 อันติดกัน กลางดอกเป็นรูปศร ดอกโตประมาณ 1 เซนติเมตร
ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่งหรือการตอน

ดองดึง
เป็นไม้เถาเล็ก มีหัวใต้ดิน ใบเป็นประเภทใบเดี่ยว ออกตามข้อ 1-3 ใบ ใบมีสัณฐานเป็นรูปหอกค่อนข้างยาว ปลายใบเรียวแหลมและโค้งงอเป็นมือเถา โคนใบกว้าง ไม่มีก้านใบ
ดอกใหญ่สีแดง เหลือง ออกตามง่ามใบใกล้ยอด ก้านดอกยาว ดอกมี 6 กลีบ รูปร่างยาวแคบ ขอบกลีบเป็นคลื่นไม่เรียบ ปลายกลีบโค้งกว้างลงมาทางก้านดอก เกสรตัวผู้มี 6 อัน ยาวชี้ออกเป็นรัศมีตามแนวนอน ท่อรังไข่ยาว ปลายแยกออกเป็นแฉกเล็ก ๆ 3 แฉก ผลเป็นฝักยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ออกดอกตลอดปี
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือแยกเหง้า

เถาไฟหรือโยธกาเลื้อย
เป็นไม้เถาขนาดใหญ่ มีมือเกาะ ตามกิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาล ใบเป็นประเภทใบเดี่ยวเรียงสลับกัน มีสัณฐานรูปไข่กว้างหรือค่อนข้างกลม โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ปลายใบเว้าตื้นบ้างลึกบ้าง ปลายใบแฉกแหลมหรือกลม ก้านใบยาวประมาณ 3 เซนติเมตร
ออกดอกเป็นช่อ ดอกสีส้มแดง มีขน ดอกตูมกลมปลายแหลมมน กลีบเลี้ยงแยกเป็น 2-3 แฉก กลีบดอกมี 5 กลีบ รูปไข่ยาว ประมาณ 1 เซนติเมตร ด้านนอกมีขน เกสรตัวผู้มี 3 อัน ก้านเกสรเล็กยาวกว่ากลีบดอกเล็กน้อย เกสรตัวผู้ฝ่อมี 2 อันเล็ก รังไข่มีขน ฝักรูปบันทัดยาวประมาณ 17 เซนติเมตร
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง

โนรา
เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง รอเลื้อย. ถ้าปลูกกลางแจ้งอาจจะเป็นไม้พุ่ม ใบเป็นประเภทใบเดี่ยวออกเป็นคู่ ตรงข้ามกัน สีเขียวเข้ม
ดอกออกเป็นช่อ ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร สีขาว หรือสีชมพูอ่อน กลีบบนเป็นสีเหลืองมะนาว กลิ่นหอม ดอกจะบานอยู่ ประมาณ 3 วันก็ร่วง แต่จะมีดอกใหม่ทะยอยกันบานตามลำดับ ผลเป็นปึกประกบกันเป็น 3 มุม สีน้ำตาล ออกดอก ประมาณเดือนธันวาคม
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปักชำหรือตอนกิ่ง

ปันหยี
เป็นไม้เถา เถากลมเกลี้ยงเป็นมัน ใบเป็นประเภทใบเดี่ยวออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ขนาดกว้างประมาณ 5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร รูปทรงป้อมปลายแหลม โคนป้าน ขอบใบเรียบ สีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านล่างสีอ่อน ก้านใบสั้น
ดอกออกเป็นช่อเล็ก ๆ ช่อละ 2-3 ดอก สีขาว ออกตามง่ามใบ มีกลีบเลี้ยงเป็นเส้น ๆ สีเขียวอ่อน โคนดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดเล็ก ๆ ส่วนปลายดอกเป็นกลีบ แยกออกเป็น 8-9 กลีบ เรียงซ้อนกัน ดอกเมื่อบานเต็มที่กว้างประมาณ 7 เซนติเมตร
ออกดอกประมาณเดือนมกราคม
ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำหรือการตอน

พวงคราม
เป็นไม้เถา กิ่งก้านเรียวเล็ก ใบเป็นประเภทใบเดี่ยวออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ มีสัณฐานรี กว้างประมาณ 3-7 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6-18 เซนติเมตร ปลายแหลมโคนสอบแคบ ขอบใบเรียบ
ดอกออกเป็นช่อ ห้อยย้อยตามง่ามใบ สีม่วง หรือ สีม่วงคราม โคนกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก เกสรตัวผู้มี 4 อัน
ออกดอกใบฤดูหนาวและแห้งโดยจะทิ้งใบหมด
ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่งหรือการตอน

พวงชมพู
เป็นไม้เถาเลื้อยพันโดยอาศัยมือเกาะ ใบเป็นประเภทใบเดี่ยวเรียงสลับกัน มีสัณฐานรูปไข่ หรือรูป สามเหลี่ยมปลายแหลม โคนใบเป็นรูปหัวใจ ขอบใบเรียบเส้นใบเห็นได้ชัด
ออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอดหรือตามง่ามใบ ดอกมี 5 กลีบ สีชมพู หรือสีขาว ออกดอกตลอดปี
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการชำกิ่ง

ป้ายกำกับ: ,

ไม้ดอกชนิดเป็นพุ่ม



กรรณิการ์
เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2 เมตร ลำต้นและกิ่งเป็นเหลี่ยม ใบเป็นชนิดใบเดี่ยวออกเป็นคู่ เรียงตรงข้าม ใบทรงรูปไข่ ขอบใบเรียบหรือมีจักเล็กน้อย
ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง เป็นดอกเดี่ยวมีโคนกลีบติดกัน มีลักษณะเป็นหลอดสีส้ม กลีบดอกแคบ ปลายกลีบสีขาวและไม่เสมอกัน จะมีกลิ่นหอมตอนกลางคืน และดอกจะร่วงหมดในตอนเช้า ผลมีลักษณะเป็นแผ่นแบน ภายในมีเมล็ดอยู่ 2 เมล็ด
ขยายพันธุ์โดยการตอนหรือปักชำ กระดังงาสงขลา



กระดังงาสงขลา เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2 เมตร ใบเป็นชนิดใบเดี่ยวยาว กลีบรองดอกมีสามกลีบ สีเขียว มีขนาดสั้น กลีบใบเรียวสองชั้น ชั้นนอกมี 5 กลีบ ชั้นในมี 15 กลีบ ปลายกลีบเรียวแหลมโคนกลีบด้านในมีแต้มสีน้ำตาล ที่ฐานกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียติดอยู่
กระดังงา ออกดอกตลอดปี มีกลิ่นหอมอบอวล ขยายพันธุ์ด้วยการตอน















กระดุมทอง
เป็นไม้ล้มลุกพุ่มเตี้ย สูงประมาณ 50 เซนติเมตร ลำต้นมีขนทึบใบเดี่ยว เรียงตรงกันข้าม สัณฐานใบเป็นรูปไข่ หรือรูปรีกว้าง ใบกว้างประมาณ 3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ปลายแหลมโคนสอบ ขอบเรียบหรือหยักซี่ฟัน ผิวใบมีขนสากทั้ง 2 ด้าน เส้นแขนงใบข้างละ 1 เส้น ก้านใบสั้นมีครีบ มีขนตามก้านใบและขอบครีบ ช่อดอกแบบช่อกระจุก
ออกดอกเดี่ยว ๆ หรือออกเป็นคู่ ตามง่ามใบใกล้ยอดดอกโตประมาณ 3 เซนติเมตร ก้านดอกยาว 1-8 เซนติเมตร โคนช่อมีใบประดับมีขนเรียงกันถี่ โคนใบประกอบชั้นนอกใหญ่ขึ้นเมื่อดอกร่วงไป ดอกวงนอกเป็นดอกตัวเมีย มีประมาณ 10 ดอก กลีบดอกสีเหลืองรูปรี กว้างประมาณ 3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร รังไข่เล็ก ดอกวงในเหมือนดอกตัวเมีย แต่รังไข่ไม่สมบูรณ์ ดอกตัวผู้มีขนาดเล็กมากและเป็นหมัน อยู่กลางกระจุกดอก ผลมีสัณฐานเป็นรูปสามเหลี่ยม ยอดแบน เมล็ดเล็กสีดำเป็นมัน ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

กาหลง
เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 3 เมตร ใบเป็นแบบใบเดี่ยว รูปไข่ ปลายเว้าลึกคล้ายใบแฝด
ดอกขาวออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งและกิ่งข้าง ดอกกาหลงมีกลีบ 5 กลีบ เกสร 10 อัน ขนาดต่าง ๆ กัน มีกลิ่นหอมรวยริน ฝักแบนมีเมล็ดประมาณ 5-10 เมล็ด
ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการตอน กาหลงออกดอกได้ตลอดปี



กุหลาบ
เป็นไม้พุ่มตั้งหรือเลื้อย ใบเป็นใบประกอบ ประกอบด้วย 3 ใบ หรือ 5 ใบ ขอบใบจัก หูใบติดกับก้านใบหรือเป็นอิสระ
ดอกออกที่ปลายกิ่ง มีทั้งดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อ กลีบรองดอกเป็นรูปถ้วยสีเขียว ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกปกติมี 5 กลีบ เกสรตัวเมียอยู่กลางดอกเป็นผลกลม ภายในมีเมล็ดแข็งจำนวนมาก เกสรตัวผู้มีอยู่เป็นจำนวนมาก กุหลาบมีหลายชนิด หลายพันธุ์ ส่วนใหญ่ดอกมีกลิ่นหอมเย็น
การขยายพันธุ์มีหลายแบบ เช่น เพาะเมล็ด ตอน ติดตา และปักชำ
...กุหลาบหอมหวล

ส่งกลิ่นยียวนแสนยวนยั่วหัวใจ
ทั้งหอมทั้งหวาน
ดอกเพิ่งบานใหม่ ๆ ...
...ฉันมั่นใจกุหลาบเป็นไม้งามละม่อม

ควรจะออมถนอมชม
ทุก ๆ คนพอใจมักเด็ดเอาไปดอมดม
หรือจะชมเสียบผมชื่นอุรา
สวยสีสรรค์ทุก ๆ พรรณสุดจะเด่น
กลิ่นเยือกเย็นสีที่เห็นไม่บาดตา
กลีบเกสรกลีบอ่อนซ้อนกันดูงามสง่า

ทุกเวลารวยรื่นนาสาน่าดม...
...ริมธารละลานไปด้วยบุปผา

ดอกแดงกุหลาบพนาสลับลัดดากล้วยไม้ไพร...

ป้ายกำกับ: ,